“จะมีอะไรที่ดีไปกว่าการได้รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ อร่อย รสชาติถูกปาก และอุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ” จากแนวคิดนี้เป็นสิ่งที่จุดประกายการผสานความร่วมมือกันของ บริษัท พรีเมียร์ โฟรเซ่นส์ โพรดักส์ จำกัด (PFP) กับบริษัท พรีเมียร์ รีสอร์ทส์แอนด์โฮเทลส์ จำกัด (PRH) และ บมจ. พรีเมียร์มาร์เก็ตติ้ง (PM) ผสานความร่วมมือกัน สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและเกิดการพัฒนาแบรนด์ “Home Cuisine” ผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งพร้อมทาน สินค้าใหม่ล่าสุดของ PFP ขึ้นมา
เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้เป็นแรงกระตุ้นให้การดำเนินชีวิตและธุรกิจต้องปรับตัว เพราะหากเรายังดำเนินชีวิตหรือทำธุรกิจแบบเดิม ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเหมือนเดิม แต่หากเราใช้วิกฤตินี้ให้เป็นโอกาส ที่จะปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง มองหาช่องทางในการพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ให้ดีกว่าเดิม เชื่อมั่นได้ว่าจะมีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่นเดียวกับ PFP ที่มองเห็นโอกาสของธุรกิจอาหารแช่แข็งที่เติบโตขึ้นมาก ในช่วง วิกฤตโควิดที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ว่าการออกไปจับจ่ายหรือท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ตามปกติ ผู้คนจึงมองหาความสุขจากการรับประทานอาหารอร่อยๆ ที่บ้าน มองหาผลิตภัณฑ์อาหารที่เก็บได้นานขึ้น ทั้งในอุณหภูมิปกติและอาหารประเภทแช่แข็ง รวมถึงการใช้ชีวิตต่างๆ ก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทาง PFP มองเห็น และคว้าโอกาสนี้ไว้
คุณพรทิพย์ เสาวภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเมียร์ โฟรเซ่นส์ โพรดักส์ จำกัด และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเมียร์ แคนนิ่งอินดัสตรี้ จำกัด เล่าว่า “ด้วยความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ (Know How) ของ PFP ที่เป็นผู้ผลิตอาหารแช่แข็งให้กับแบรนด์ต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศมานานกว่า 30 ปี ประกอบกับสถานการณ์โควิด -19 ทำให้ตลาดสินค้า Ready to eat เติบโตขึ้นมาก พบว่ามีมูลค่าทางการตลาดสูงกว่า 21,507 ล้านบาท มีโอกาสเติบโตถึง 10.6% ทำให้ทาง PFP เห็นช่องทางในการพัฒนาธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งนี้ขึ้น เราจึงได้มีการจับมือร่วมกันกับทาง PRH ตั้งแต่ร่วมคิดและร่วมทำ ทั้งการวิจัย พัฒนาสูตรอาหาร สร้างแบรนด์สินค้า วางกลยุทธ์การตลาด โดยมีทาง PM ช่วยในการหาช่องทางในการจัดจำหน่าย ซึ่งเป็นการผสานความร่วมมือที่ทุกฝ่ายได้ใช้จุดแข็งความเชี่ยวชาญทางธุรกิจที่ทำอยู่ มาร่วมมือกันพัฒนาแบรนด์ “Home Cuisine” นี้ โดยทาง PFP ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตและเป็นเจ้าของแบรนด์ ได้มีการนำเอาเทคโนโลยี Taste Lock ที่ทันสมัยมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตอาหารแช่แข็งพร้อมทาน ให้มีทั้งความอร่อย สดใหม่ และคงรสสัมผัส ให้เหมือนที่ปรุงสุกใหม่จากในครัว ตลอดจนการเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค
โดยจุดยืนของแบรนด์ (Brand Positioning) ที่เราวางไว้ “Home Cuisine” คืออาหารแช่แข็ง ที่อร่อยเหมือนการปรุงสุกที่บ้าน ทั้งนี้ทั้งนั้นทางเรายังคำนึงถึงสุขภาพของผู้บริโภค โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนเกลือที่หมักขึ้นจากธรรมชาติ เพื่อช่วยในการลดปริมาณเกลือที่ใช้ในการปรุงอาหารลง จึงทำให้อาหารของ Home Cuisine มีปริมาณโซเดียมน้อยกว่าผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งอื่นๆ เป็นอีกหนึ่งความใส่ใจในกระบวนการผลิตที่เราต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค”
คุณชุติมา เรืองฤทธิ์ราวี ที่ปรึกษา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มธุรกิจโรงแรม เล่าว่า “การทำงานครั้งนี้เป็นความร่วมมือข้ามสายธุรกิจที่ดีมาก สามารถเป็นต้นแบบความร่วมมือ (Role Model) ของกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ เพราะได้มีการนำ ความเชี่ยวชาญ (Expertise) ที่แต่ละสายธุรกิจมี มาสร้างความร่วมมือ ร่วมกันเติมเต็ม เพื่อให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด
ในการทำงานของ PRH ถามว่า แตกต่างจากการทำงานเดิมไหม จริงๆ เรานำแนวคิดการพัฒนาแบรนด์ Hospitality มาใช้ในการพัฒนาแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหาร ซึ่งใช้พื้นฐานวิธีการคิดในแนวเดียวกัน โดยยึดแนวทางของ Core Value ต่างกันเพียงผลิตภัณฑ์ และเรามีทีมดีไซน์ที่มีจุดแข็งด้าน Content & Story ที่โดดเด่น เมื่อเรามีโจทย์นี้ให้ทีมงาน ก็ผ่านกระบวนการคิดออกมาเป็นคอนเซปต์คือ “Happiness is Homemade” ความสุขปรุงที่บ้าน จากคอนเซปต์นี้ นำไปสู่เรื่องราวของการทำงานทั้งหมด ทั้งการพัฒนาสูตรอาหารให้คงความอร่อย ถูกปากถูกใจผู้บริโภค การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การนำเสนอตัวตนของแบรนด์ Home Cuisine ที่มีความคลาสสิก อบอุ่น ความอร่อยจากสูตรลับที่ปรุงสดใหม่ เหมือนทำรับประทานเองที่บ้าน การทำงานของทีมผ่านกระบวนการคิดและทดสอบในทุกขั้นตอน มีการทำ Focus Group กับกลุ่มคนที่คัดเลือกมา เพื่อให้ความตั้งใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ ส่งไปถึงผู้บริโภคให้ได้รับประทานอาหารที่อร่อยที่คงคุณค่า
คุณพรทิพย์เสริมว่า ในกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ มีพนักงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และมีศักยภาพอยู่มาก แต่ต่างคนต่างทำงานในสายธุรกิจของตนเอง เมื่อได้เปิดใจทำงานข้ามสายธุรกิจ ได้ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ในสิ่งที่แต่ละคนมีความถนัด ได้พูดคุยแก้ปัญหาทำงานร่วมกัน ทำให้การพัฒนาธุรกิจนี้ตลอดระยะเวลา 1 ปี เป็นการทำงานที่ลื่นไหลและมีความสุขมาก ภูมิใจที่ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ฉีกไปจากการทำงานแบบเดิม สร้างความแตกต่างให้กับตลาดสินค้าอาหารแช่แข็ง เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ Home Cuisine นี้ขึ้นมา
วันนี้ Home Cuisine เปิดตัว 5 เมนู คือ 3 เมนูอาหารฟิวชั่นรสชาติแปลกใหม่ ข้าวน้ำพริกปลาร้าหมูแดดเดียว สปาเก็ตตี้ไส้กรอกอีสาน ข้าวคลุกแซลมอนพริกขี้หนูสด และ 2 เมนูอาหารทานเล่น คือ มันบดอบชีสแกงกระหรี่ญี่ปุ่น และเครปแฮมชีส วางจำหน่ายที่วิลล่ามาร์เก็ต และฟู้ดแลนด์ รวมทั้งหมด 53 สาขา ในอนาคตมีการวางแผนจะเพิ่มเมนูอาหารให้หลากหลายขึ้น รวมถึงเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายที่เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างสะดวกขึ้น การสื่อสารการตลาดในช่วงเริ่มต้นนี้เป็นการสร้าง Awareness ให้กับผู้บริโภคในช่องทางออนไลน์ทั้ง Facebook และ Instagram รวมถึงวางแผนการเปิด Pop up store เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองชิมผลิตภัณฑ์คาดว่าจะเปิดตัวเต็มรูปแบบในช่วงกลางปี 2565