
ทุกขั้นตอนของทาโร เดินทางด้วยความใส่ใจ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เส้นทางธุรกิจยั่งยืน บริษัท พี.เอม. ฟูด จำกัด
เพราะอาหารและขนมทุกคำ ล้วนมีเรื่องราวอยู่เบื้องหลัง ตั้งแต่แหล่งที่มาของวัตถุดิบ กระบวนการเพาะปลูก การแปรรูป และกระบวนการผลิตที่ต้องมีมาตรฐานและความปลอดภัย
ในปัจจุบันผู้บริโภคมีทางเลือกและการตัดสินใจมากขึ้น โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหารหรือขนม ไม่ใช่เพียงแค่ความอร่อย แต่ให้ความสำคัญกับความสดใหม่ ความปลอดภัย มีประโยชน์ต่อร่างกาย และหากผู้ผลิตสื่อสารให้ทราบถึงกระบวนการผลิตที่ชัดเจนทราบแหล่งที่มาของวัตถุดิบก็จะทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในการ เลือกบริโภคสิ่งนั้น
วัตถุดิบที่บริษัท พี.เอม.ฟูด จำกัด คัดสรรมาผลิตปลาสวรรค์ทาโร เราใส่ใจและให้ความสำคัญตั้งแต่แหล่งที่มาของการผลิต แปรรูป และการขนส่ง ตั้งแต่วัตถุดิบหลักอย่างปลาที่นำมาผลิตเป็นซูริมิ รวมถึงส่วนประกอบอื่นๆ ที่นำมาใช้ในปริมาณน้อย อย่างซอส น้ำตาล หรือแป้งมันสำปะหลังก็เป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญและทำงานร่วมกับคู่ค้าในการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ รวมถึงกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability Program) เช่นเดียวกัน จึงเป็นที่มาของการทำงานร่วมกับ บริษัท สงวนวงษ์ อุตสาหกรรม จำกัด และ บริษัท ไวต้า บาเรนซ์ จำกัด
คุณวิภาส จิรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เอม.ฟูด จำกัด เล่าถึงความใส่ใจในกระบวนการทำงานร่วมกับห่วงโซ่คุณค่า เพื่อส่งมอบสินค้าปลาสวรรค์ทาโรให้กับผู้บริโภค ได้รับประทานขนมที่อร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ความใส่ใจตั้งแต่การเพาะปลูก
เสียงจากเกษตรกรในพื้นที่จ.นครราชสีมาที่ปลูกและส่งมันสำปะหลังให้กับโรงงาน เพื่อผลิตเป็นแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอาหารและขนมที่หลากหลาย รวมถึงปลาสวรรค์ทาโรด้วยเช่นกัน ความเปลี่ยนแปลงที่ได้รับจากบริษัท สงวนวงษ์ อุตสาหกรรม จำกัด ทำให้เกษตรกรมีความรู้ในการเพาะปลูก การดูแล ช่วยส่งเสริมคุณภาพของมันสำปะหลัง มีรายได้ที่มั่นคง
คุณสมพงษ์ ไขทะเล เล่าว่า “ก่อนที่เราจะปลูกมันสำปะหลัง เราก็ต้องเลือกสายพันธุ์ว่าดินบ้านเราเหมาะกับสายพันธ์อะไร เช่น เกษตรศาสตร์ KU เกษตรศาสตร์ 50 60 และห้วยปรง ที่ให้ผลผลิตสูงและมีน้ำหนัก มีเปอร์เซ็นต์แป้งที่ดี ดูแลง่าย ส่วนที่ 2 เกี่ยวกับเรื่องดิน ที่โคราชบ้านเรานี้ส่วนใหญ่จะเป็นดินร่วน ปนทราย เราต้องปรับสภาพดิน โดยใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด หรือปอเทือง เพื่อลดต้นทุน ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดการใช้สารเคมีที่จะทำลายสุขภาพของเราและผู้บริโภค”
คุณสวิง จุ้ยใจเหิม เกษตรกรอีกท่านเสริมว่า หากเราใส่ปุ๋ยเคมีอย่างเดียวที่อยู่ในตลาด เราก็ต้องเพิ่มปุ๋ยทุกๆ ปี แต่หากเราใช้ปุ๋ยอินทรีย์ก็จะทำให้สวนมีความชุ่มชื่น และปลอดภัยทั้งกับพืชผล ตัวเรา และผู้บริโภค สงวนวงษ์เข้ามาช่วยพัฒนาความรู้ให้เกตรกร ไม่เพียงการทำปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก แต่ยังช่วยทุกเรื่องเพื่อช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้น รวมถึงรับซื้อมันสำปะหลังทุกสายพันธุ์ต่อเนื่องทั้งปี ทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น
ความใส่ใจในการแปรรูป และการผลิต
คุณโชติมา ลีอังกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สงวนวงษ์ อุตสาหกรรม จำกัด เล่าว่า แป้งมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบผลิตอาหารที่หลากหลาย เราจึงนำมุมคิดของลูกค้าว่าเขาต้องการวัตถุดิบที่มีคุณภาพ สามารถส่งมอบวัตถุดิบได้อย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี เพื่อให้โรงงานของเขาดำเนินได้ต่อเนื่องไม่สะดุด ดังนั้นเราจึงต้องทำหน้าที่เป็นคนกลางที่บริหารจัดการให้เส้นทางของ Supply Chain นี้ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเราทำงานร่วมกันทั้งแต่ต้นน้ำและกลางน้ำแล้ว ธุรกิจยั่งยืนจึงเป็นเรื่องสำคัญ ในหัวใจของพวกเราทุกคน คุณพ่อจะสอนพวกเราตลอดว่าให้ดูแลเกษตรกรผู้เป็นต้นน้ำให้ดี ถ้าไม่มีเกษตรกรส่งมันสำปะหลังให้เรา โรงงานก็เป็นเพียงเศษเหล็กหนึ่งที่ไม่มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงโรงงานให้เติบโตและยั่งยืนต่อไปได้”
ความใส่ใจดูแลเกษตรกร
คุณชัยวัฒน์ โชคถาวร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สงวนวงษ์ อุตสาหกรรม จำกัด เสริมว่า “มันสำปะหลังเป็นหัวใจหลักของธุรกิจของเรา ถ้าเราได้วัตถุดิบที่ดี ผลผลิตของเราก็จะดีขึ้น การช่วยเหลือชาวไร่ ให้ความรู้ ให้เขาสามารถปลูกมันสำปะหลังเป็นอาชีพ เลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้อย่างมั่นคงจึงเป็นเรื่องสำคัญ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทีมงานเจ้าหน้าที่เกษตรสัมพันธ์ที่ให้ความรู้ ตรวจสภาพดิน ให้ปุ๋ยตัวอย่างที่มีคุณภาพตรงกับสภาพดินในพื้นที่ และจัดอบรมให้ความรู้กับเกษตรกรเป็นประจำทุกปี
ความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมตลอดกระบวนการผลิต
นอกจากกระบวนการผลิตและแปรรูปแป้งมันสำปะหลังที่ต้องมีคุณภาพและความใส่ใจตลอดกระบวนการแล้ว ในขั้นตอนการกำจัดของเสียก็เป็นอีกหนึ่งด้านที่บริษัทสงวนวงษ์ฯให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน
คุณกวี ตันติวงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สงวนวงษ์ เอ็นเนอร์ยี จำกัด เล่าว่า “สมัยก่อนโรงงานจะมีกลิ่นหมักที่เกิดจากกระบวนการผลิต เพราะเปลือกมันสำปะหลังที่ลอกออกจะมีแบคทีเรียและเกิดการหมักตามธรรมชาติ ที่มีกลิ่นรบกวนชุมชนรอบโรงงาน บริษัทจึงมีโครงการพัฒนากระบวนการจัดการของเสีย (waste Management) ทำโรงงานผลิตก๊าซชีวภาพ (Bio Gas) โดยร่วมมือกับประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเริ่มต้นแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นจากน้ำเสียในกระบวนการผลิต และสร้างโรงงานก๊าซชีวภาพแห่งที่ 2 จากกากมันสำปะหลัง สิ่งที่ได้คือก๊าซชีวภาพที่นำมาทดแทนน้ำมันเตา นำมาผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อเป้าหมายที่ต้องการอยู่ร่วมกับสังคมและชุมชนรอบข้างได้อย่างยั่งยืน เพื่อให้คู่ค้ามั่นใจได้ว่าบริษัทให้ความใส่ใจในการผลิตแป้งมันสำปะหลัง เพื่อส่งต่อให้กับบริษัท ไวต้า บาเรนซ์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายแป้งมันสำปะหลังให้กับบริษัท พี.เอม.ฟูด จำกัด รวมถึงคู่ค้าอื่น ๆ ด้วยสินค้าที่ดี มีคุณภาพ ได้มาตรฐานที่ถูกต้อง
ใส่ใจในความต้องการของลูกค้า
คุณพีระพันธ์ จิวพรทิพย์ CEO of Food Business เล่าว่า บริษัท ไวต้า บาเรนซ์ จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ทางด้านอาหาร เล่าว่า เรามีโอกาสทำงานร่วมกับ บริษัท พี.เอม.ฟูด จำกัด และได้รับโจทย์ว่าต้องการแป้งมันสำปะหลัง เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตปลาสวรรค์ทาโร เราจึงพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพร่วมกับ บริษัท สงวนวงษ์ อุตสาหกรรม จำกัด เพื่อส่งมอบให้ บริษัท พี.เอม.ฟูด จำกัด และมุ่งมั่นที่จะทำให้ระบบห่วงโซ่ของการผลิตขนมที่มีประโยชน์นี้มีความแข็งแรงและทำงานเป็นคู่ค้าร่วมกันอย่างยั่งยืน
ความใส่ใจตลอดห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ
คุณวิภาส จิรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เอม.ฟูด จำกัด สรุปถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกับคู่ค้าในห่วงโซ่ว่า “เราให้ความใส่ใจและความสำคัญตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ วัตถุดิบทุกอย่าง ตั้งแต่ เนื้อปลาซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักเราใช้เนื้อปลาทะเลที่มีโปรตีนสูงมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ ส่วนวัตถุดิบประกอบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรุงรส ซอส และน้ำตาล รวมไปถึงแป้งมันสำปะหลัง ต้องมั่นใจว่าวัตถุดิบสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ทราบถึงแหล่งที่มาอย่างชัดเจน มีความปลอดภัย ซึ่งตรงนี้เรามีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้า รวมถึงคำนึงคุณค่าที่มอบให้กับสังคม สิ่งแวดล้อม และพี.เอม.ฟูด จะไม่หยุดพัฒนาเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าที่มีคุณภาพ และขยายความร่วมมือกับคู่ค้า ยกระดับมาตรฐานวัตถุดิบ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับอาหารและขนมที่มีประโยชน์และมีความปลอดภัย เพื่อสุขภาพของผู้บริโภคทุกคน






