มูลนิธิเพื่อ “คนไทย” ร่วมกับเครือข่ายจัดงาน “เท่าหรือเทียม : เส้นทางความเหลื่อมล้ำ คนจนเมือง”

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน คือแนวทางขจัดความยากจนในสังคมไทย
มูลนิธิเพื่อ “คนไทย” ร่วมกับเครือข่าย จัดงาน
“เท่าหรือเทียม: เส้นทางความเหลื่อมล้ำ คนจนเมือง”
เพราะพลังการบูรณาการ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน คือ แนวทางขจัดความยากจนในสังคมไทย
มูลนิธิเพื่อ “คนไทย” ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาสังคม และหน่วยงานภาครัฐ จัดงาน “เท่าหรือเทียม: เส้นทางความเหลื่อมล้ำ คนจนเมือง” ที่หอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดพื้นที่รับฟัง แบ่งปันประสบการณ์ แลกเปลี่ยนมุมมอง ข้อเสนอ การแก้ไขปัญหาคนจนเมืองจากผู้ลงมือปฏิบัติจริงจากภาคส่วนต่างๆ เพื่อนำมาสู่การออกแบบเครื่องมือแก้ปัญหาคนจนเมืองที่มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และร่วมกันขับเคลื่อนงานนี้อย่างต่อเนื่อง
คุณวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการ มูลนิธิเพื่อ “คนไทย” ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเวที Mini Forum : Call for Action ร่วมแก้ปัญหาคนจนเมือง โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของภาคธุรกิจในการแก้ไขปัญหาความยากจน และความเหลื่อมล้ำในสังคม เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและเป็นรูปธรรม
คุณวิเชียรกล่าวว่า “ภาคธุรกิจไทยมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและสังคม เพราะเป็นผู้จ้างงานและใช้ทรัพยากรจำนวนมากในห่วงโซ่ธุรกิจ แต่ในขณะเดียวกัน บทบาทของนักธุรกิจในการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำอาจจะยังน้อยเกินไป ทั้งที่เป็นผู้ได้รับประโยชน์จากสังคมโดยตรง ดังนั้นภาคธุรกิจไม่ควรจำกัดบทบาทเพียงแค่การดำเนินธุรกิจที่เป็นผู้สร้างรายได้ หรือสร้างผลกำไร แต่ควรมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา เพราะภาคธุรกิจมีทั้งทรัพยากรทุน ทุนมนุษย์ และองค์ความรู้ ที่สามารถนำมาสร้างทั้งการเปลี่ยนแปลงและโอกาส ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ รายได้ หรือความยั่งยืนของสังคม”
“หากเรามองว่าแต่ละวันที่ผ่านไปคือการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ และความไม่ยั่งยืนในระบบเศรษฐกิจ การลงทุนเพื่อความเท่าเทียม ความยุติธรรมในสังคม หรือการลงทุนเพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของธุรกิจก็ล้วนแต่ ‘คุ้มค่า’ ทั้งสิ้นและเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ”
แม้ปัญหาความยากจนจะมีขนาดใหญ่และมีความซับซ้อน รวมถึงต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไขปัญหา แต่เชื่อว่า ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ประชาสังคม และธุรกิจ ต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่มีทรัพยากร ทั้งทุนทรัพย์ ทุนมนุษย์ รวมถึงองค์ความรู้ที่พร้อม ต้องลุกขึ้นมามีส่วนร่วมอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมา หลายคน หลายองค์กรทำเต็มที่แล้ว รวมถึงภาครัฐก็มีกลไกสนับสนุน แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาขนาดใหญ่นี้ได้อย่างเพียงพอ
หากเรายอมรับว่าความไม่เพียงพอคือโจทย์หลัก แล้วเหตุใดเราจะไม่เริ่มต้น “เอาชนะ” ความเหลื่อมล้ำอย่างจริงจังในเวลาอันควร แม้ต้องใช้เวลาและมีความยาก แต่เราต้องมีจุดเริ่มต้น เพื่อจะสามารถเดินหน้าเอาชนะปัญหานี้ได้
คุณวิเชียรปิดท้ายด้วยการเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนร่วมกันกำหนดเป้าหมาย และลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรม ช่วยกันเอาชนะความเหลื่อมล้ำ และปัญหาความยากจน เพื่อให้เด็กที่เกิดในครอบครัวยากจนหรือมีปัญหาในวันนี้ จะสามารถหลุดพ้นจากวงจรความยากจนในอีก 20 ปีข้างหน้า
งานนี้จัดโดย ไทยพีบีเอส โดยศูนย์สื่อสารวาระทางสังคมและนโยบายสาธารณะ หรือ The Active ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) มูลนิธิเพื่อ “คนไทย” และภาคีเครือข่ายประกอบด้วย มูลนิธิสติ บ้านมั่นคง มูลนิธิอิสรชน มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ บริษัท สุขภาวะข้างถนน จำกัด โครงการ ForOldy เทใจดอทคอม โครงการ Young Happy กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ และกรุงเทพมหานคร
ภายในงานประกอบด้วย 6 กิจกรรม คือ นิทรรศการ – ข้อมูล – ภาพถ่าย- เวทีเสวนา-ตลาดแก้จน สะท้อนปัญหาความเหลื่อมล้ำเพื่อสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา โดยมีองค์กรภาคสังคมร่วมงานในพื้นที่ตลาดแก้จน ประกอบด้วย หมอหนี้เพื่อประชาชน โดย การธนาคารแห่งประเทศไทย เทใจดอทคอม ร้านปันกัน โดย มูลนิธิยุวพัฒน์ Limited Education โดย โครงการร้อยพลังการศึกษา และบ้านมั่นคง โดย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)