Partnership and Collaboration

กลไกความร่วมมือ “Partnership and Collaboration”

Partnership and Collaboration

กลไกความร่วมมือ “Partnership and Collaboration”
กลุ่มบริษัทพรีเมียร์ร่วมขับเคลื่อน และ
สนับสนุนงานต่อต้านคอร์รัปชัน

การพัฒนากลไกความร่วมมือ “Partnership and Collaboration” เป็นสิ่งที่กลุ่มบริษัทพรีเมียร์ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของภาคีในประเด็นทางสังคมด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงแต่การสนับสนุนเงินทุนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสนับสนุนในด้านอื่นๆ   เช่น บุคลากร ร่วมเป็นอาสาสมัครแบ่งปันเวลา สนับสนุนงานด้านการบริหารจัดการและให้คำแนะนำ   องค์ความรู้และความเชี่ยวชาญ เพื่อเป้าหมาย สร้างตัวคูณพลังทางสังคม ขยายผลการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ดีขึ้นด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)  เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่มีพันธกิจด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ที่กลุ่มบริษัทพรีเมียร์ร่วมสนับสนุนฯ มาโดยตลอด  เพื่อยกระดับการสร้างกลไกความร่วมมือ มุ่งหวังให้เกิดพลังทางสังคมขนาดใหญ่เพียงพอที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ

ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธ์วันนี้เป็นการเริ่มต้นที่ดี และจากนี้ไปจะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อหารืออย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้เห็นความก้าวหน้า และจะเปิดโอกาสให้ประชาชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ เพื่อนำความหวัง ความไว้ใจ และความเชื่อมั่นกลับมา

คุณวิเชียร พงศธรความท้าทายของการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน คือ การเชื่อมโยงการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ภาคประชาชน ภาคธุรกิจ ภาควิชาการ หน่วยงานองค์กรอิสระ หน่วยงานรัฐต่างๆ แต่ส่วนสำคัญอย่างยิ่งคือ บทบาทภาคประชาชน ซึ่งต้องไม่ใช่เป็นผู้รับบริการอย่างเดียว แต่ประชาชนต้องมีส่วนร่วม เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและแก้ไขปัญหา

ซึ่งได้มีการหารือพัฒนาการทำงานร่วมกัน ในเรื่องการเปิดเผยข้อมูลเพื่อความโปร่งใส ผ่านเครื่องมือและกลไกต่างๆ เช่นการขับเคลื่อนโครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact : IP) เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ รวมถึงขั้นตอนการขอใบอนุญาต การใช้ดุลยพินิจต่างๆ เพื่อนำมาสู่ความร่วมมือขนาดใหญ่ในการเฝ้าระวังและสร้างความโปร่งใสในกระบวนการทำงานของทุกส่วน

กลุ่มบริษัทพรีเมียร์ ขอเชิญชวนพนักงานร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของภาคีในประเด็นทางสังคมด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมด้วยตัวเอง ผ่านการลงมือทำ เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ รวมพลังเพื่อเป็นพลเมืองที่ส่วนร่วมเพื่อส่วนรวม (Active Citizen) “ที่ต้องไม่ใช่เป็นผู้รับบริการอย่างเดียว แต่ต้องมีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและแก้ไขปัญหา

ครบรอบ 30 ปี มูลนิธิยุวพัฒน์

ครบรอบ 30 ปี มูลนิธิยุวพัฒน์ ชวนทุกคนร่วมสร้างโอกาสให้กับเด็กและเยาวชน

ครบรอบ 30 ปี มูลนิธิยุวพัฒน์


ครบรอบ 30 ปี มูลนิธิยุวพัฒน์
ชวนทุกคนร่วมสร้างโอกาสให้กับเด็กและเยาวชน

30 ปีก่อน มูลนิธิยุวพัฒน์ได้เริ่มต้นช่วยเหลือเด็กและเยาวชนขาดโอกาส จากงานสนับสนุนทุนการศึกษา ด้วยความเชื่อว่า การศึกษาคือรากฐานของการพัฒนา และเด็กไทยทุกนควรได้รับโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ปัจจุบันมูลนิธิยุวพัฒน์ได้ขยายบทบาทการเป็นตัวกลาง เชื่อมต่อความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายและภาคส่วนต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนขาดโอกาสในมิติอื่นๆ เพิ่มขึ้น ได้แก่ พัฒนาศักยภาพเด็กปฐมวัย ดูแลภาวะโภชนาการ พัฒนาเครื่องมือการเรียนการสอนในโรงเรียน  เสริมสร้างทักษะชีวิต รวมถึงการสร้างคนดีเพื่อเติบโตเป็นกำลังสำคัญกับประเทศ

เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี มูลนิธิยุวพัฒน์ เชิญชวนภาคีทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองการทำงาน และแนวทางความร่วมมือที่จะช่วยเหลือเด็กขาดโอกาส โดยมีภาคีร่วมจัดงานคือ โครงการพัฒนาเด็กปฐมวัยแบบบูรณาการโดยยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง (ICAP)  โครงการฟู้ด ฟอร์ กู๊ด, Learn Education  ห้องเรียนดิจิทัลวิทย์คณิต, a-chieve การพัฒนาครูแนะแนวรุ่นใหม่และเครื่องมือที่ช่วยให้เด็กไทยออกแบบชีวิตตนเองได้, Winner English ห้องเรียนดิจิทัลวิชาภาษาอังกฤษ, Teach for Thailand  ครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง, โครงการพัฒนาโรงเรียนคุณธรรม และ โครงการร้านปันกัน

คุณวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิยุวพัฒน์ เล่าว่าเป้าหมายสูงสุดของมูลนิธิยุวพัฒน์ คือ   การสร้างความร่วมมือ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ ลดความเหลื่อมล้ำของระบบการศึกษา เพื่อให้เด็กขาดโอกาสได้เรียนหนังสือ ได้รับการดูแลรอบด้าน มูลนิธิยุวพัฒน์จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่อความร่วมมือจากภาคี พัฒนาเครื่องมือต่างๆ ที่มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมได้ตามความถนัด 

ความร่วมมือของภาคเอกชนเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนขาดโอกาส 

คุณแม่ทัพ . สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) เล่าว่า ได้เริ่มต้นจากแคมเปญ Limited Education จำหน่ายขนมปังเนยสด และสะกดผิดเป็นขนมปังเนยโสดสร้างความตระหนักปัญหาของเด็กไทยที่อ่านเขียนไม่ได้ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก และมีแคมเปญต่อเนื่อง เป็นการทำงานช่วยเหลือสังคมที่เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ และทีมงานก็ร่วมพัฒนาโปรเจกต์กับยุวพัฒน์เป็นการทำงานแบบร่วมกันคิด ร่วมกันทำ เพราะหากเราสามารถพัฒนาคนให้มีคุณภาพ ภาคเอกชนก็จะได้คนที่มีคุณภาพ ช่วยทำให้ธุรกิจเจริญเติบโตและก้าวหน้าไปอย่างยั่งยืน

คุณสุจารี ตามครองชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและเทคโนโลยี บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด ได้ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์สำคัญกับ FOOD FOR GOOD ขับเคลื่อนงานเพื่อโภชนาการเด็กไทย โดยตั้งต้นจากการทำความเข้าใจปัญหาและพัฒนาแคมเปญ โดยใช้ความถนัดขององค์กร มาพัฒนานวัตกรรม สร้างแอพพลิเคชั่นติดตามภาวะโภชนาการเด็ก และแคมเปญการระดมทุนผ่านบัตรเครดิต สร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มลูกค้าของกรุงศรีคอนซูมเมอร์  ซึ่งสิ่งสำคัญคือ การได้แบ่งปันองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญของแต่ละองค์กรเพื่อสร้างสังคมให้ดีขึ้น และตรงกับแนวคิดองค์กรในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และการมีธรรมาภิบาล (ESG)

คุณวุฒิ วิพันธ์พงษ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารความยั่งยืนทางธุรกิจและสิ่งแวดล้อม บริษัท  แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เราให้ความสนใจกับกิจกรรมกับปันกัน เพราะเห็นว่าทางปันกันมีกระบวนการทำงานที่เข้มแข็ง ทำให้เราสร้างความร่วมมือได้อย่างรวดเร็ว และเป้าหมายการระดมทุนของปันกันก็ตรงกับ AssetWise ที่ให้ความสำคัญกับด้านการศึกษา นอกจากนี้การให้พื้นที่ตั้งกล่องปันกัน ก็เป็นการสร้างความสุขให้กับลูกบ้าน พนักงาน ที่ได้ร่วมแบ่งปันสิ่งของ และยังเป็นการช่วยด้านสิ่งแวดล้อม ในการลดปริมาณขยะจากสิ่งของสภาพดีที่ตนไม่ได้ใช้แล้ว จึงเป็นโมเดลที่สมบูรณ์ทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และธุรกิจ

ความร่วมมือจากภาครัฐ พร้อมเชื่อมต่อการทำงานกับทุกภาคส่วน

ภายในงาน ยังมีภาครัฐที่มาร่วมสะท้อนมุมมองของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและเห็นตรงกันว่าต้องสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคสังคม โดยสภาการศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

คุณสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการสภาการศึกษา มองว่า ภาครัฐให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษามาโดยตลอด มีโครงการเพื่อสนับสนุนเด็กมากมาย เช่น โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครอบครัวยากจน 2,000 บาทในสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา  โครงการเรียนสายอาชีวศึกษาเพื่อให้เด็กได้ทำงาน มีอาชีพ และมีรายได้ระหว่างเรียน โครงการเด็ก 1 คน 1 ชุมชนดูแล ให้คนที่มีศักยภาพในชุมชน มีความพร้อมที่จะพัฒนาการศึกษาต่อไปในอนาคต และอีกมากมาย แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนเด็กขาดโอกาสที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การสร้างความร่วมมือให้ภาคส่วนอื่นเข้ามาช่วยเหลือจึงมีความสำคัญ

คุณพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ สพฐ. เล่าถึงบทบาทของ สพฐ. ว่าเด็กทั่วประเทศอยู่ในความดูแลของ สพฐ. จำนวน 6 ล้านคน 30,000 โรงเรียน ขณะที่เด็กไทยเข้าไม่ถึงการศึกษา และตกหล่นราว 70,000 คน การแก้ปัญหาการศึกษาจึงจำเป็นต้องเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่มีความพร้อมและสนับสนุนการทำงาน เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาไปด้วยกัน

 

จากวันที่ได้รับโอกาสในวันนั้นเป็นฉันในวันนี้

แขกคนสำคัญในงานครบรอบ 30 ปี มูลนิธิยุวพัฒน์อีกกลุ่มหนึ่ง คือตัวแทนผู้ที่ได้รับโอกาสอดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์” … จากวันแรกที่ได้รับโอกาสสานต่อความฝันและเปลี่ยนแปลงชีวิต จนมาถึงวันนี้กับความตั้งใจในการส่งต่อโอกาสให้กับน้องๆ รุ่นต่อไป  และคำขอบคุณที่พวกเขาอยากสื่อไปถึงคุณโอกาสทุกท่าน 

รู้สึกภูมิใจและดีใจที่ได้เป็นนักเรียนทุนรุ่นแรกในครอบครัวยุวพัฒน์ อยากบอกว่าการศึกษามีความสำคัญมากๆ กับเยาวชนไทยทุกคน มีส่วนในการกำหนดอาชีพของเด็กในอนาคต และพร้อมในการเป็นพลเมืองที่ดีมีความรู้คู่คุณธรรม ขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณทุกท่านที่ให้โอกาสเด็กคนหนึ่งในวันนั้น และได้โอกาสมาเล่าเรื่องดีๆ ในวันนี้จันจีรา โสะประจิน อดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์ รุ่นที่ 1 .สตูล ปัจจุบันเป็น นักวิชาการส่งเสริมการลงทุนชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)

ในวันนั้นหนูเรียนอยู่ ป.6 ไม่มีโอกาสเรียนต่อเรียนต่อในระดับมัธยม แต่โอกาสจากมูลนิธิยุวพัฒน์และผู้ใหญ่ใจดีทำให้หนูได้เรียนต่อจนจบ ม.6 หนูอยากเป็นคุณครูเพราะอยากส่งมอบโอกาสให้คนอื่นๆ เหมือนวันนั้นที่หนูเคยได้รับจากมูลนิธิยุวพัฒน์ ขอสัญญาว่าหนูจะเป็นคุณครูและสร้างโอกาสให้เด็กๆ ต่อไปเกศรา กล้าหาญ อดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์ .ลพบุรี ปัจจุบัน นักศึกษา สาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ ชั้นปีที่ 3

เส้นทางของหนูไม่ได้เรียบหรูและสุขสบายเหมือนคนอื่นๆ มีคุณย่าเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้หนูตั้งเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน มีคุณครู และพี่ๆ มูลนิธิยุวพัฒน์ ชี้แนะแนวทางในการแก้ปัญหา และเป็นกำลังใจสำคัญของหนูมาตลอดค่ะ แม้วันนี้หนูจะยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่สัญญาว่าจะทำหน้าที่ของครูที่ดีในอนาคตเพื่อตอบแทนมูลนิธิยุวพัฒน์ให้ได้บัวชมพู พวงสิน  อดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์ จ.ชลบุรี ปัจจุบัน นักศึกษา สาขาคณิตศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ ชั้นปีที่ 4

พ่อแม่ปู่ย่าตาทวดพวกเรามีอาชีพทำนา รายได้ที่หามาได้ไม่เพียงพอที่จะส่งลูกเรียน พอได้รับทุนทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องตั้งใจเรียนนะ จะได้มีโอกาสเรียนต่อสูงขึ้น ตอนนี้เราทำงานแล้ว ก็อยากตอบแทนคืนให้กับสังคมบ้าง เพราะเราเองก็ได้รับโอกาสจากมูลนิธิฯ เลยเริ่มต้นด้วยการบริจาครายเดือนกับมูลนิธิยุวพัฒน์ จนถึงตอนนี้ก็เกือบจะ 8 ปีแล้ว อยากเชิญชวนทุกๆ ท่านมาร่วมด้วยช่วยมูลนิธิยุวพัฒน์ของเราต่อไปอรปวีย์ สีทอง อดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์ จ.อำนาจเจริญ ปัจจุบัน วิศวกรอาวุโส  บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT

ขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกๆ ท่าน องค์กรทุกๆ องค์กรที่ได้มอบโอกาสให้กับพวกเราได้ทำตามความฝันของตัวเอง และในวันนี้ความฝันของพวกเราเป็นจริงแล้ว หลายๆ คนกลับมาเป็นผู้ให้ มอบทุนการศึกษาให้กับรุ่นน้อง  เป็นอาสาสมัครให้กับมูลนิธิฯ เพราะหวังว่าน้องๆ จะได้มีโอกาสเดินตามความฝันเหมือนกับตัวเอง ทั้งหมดเกิดจากทุกๆ ท่านได้มอบสิ่งที่มีค่ามากๆ ให้กับพวกเรา นั่นก็คือ โอกาสทางการศึกษาอดิศักดิ์ สุดสาว อดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์ จ.เลย ปัจจุบัน หัวหน้างานกราฟฟิค บริษัทเอกชน

เพราะการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เป็นปัญหาขนาดใหญ่ จำเป็นต้องอาศัยพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สร้างกระบวนการมีส่วนร่วม และการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการพัฒนาให้เด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสเติบโตเป็นกำลังสำคัญ ที่จะพัฒนาสังคมและประเทศต่อไป

ร้อยพลังสร้างสังคมดี

ร้อยพลังสร้างสังคมดี
ชวนทุกคนมีส่วนร่วมพัฒนาสังคม

ร้อยพลังสร้างสังคมดี

ร้อยพลังสร้างสังคมดี ชวนทุกคนมีส่วนร่วมพัฒนาสังคม

ร้อยพลังสร้างสังคมดี คืออะไร 

เพราะการแก้ปัญหาสังคมขนาดใหญ่มีความซับซ้อน ร้อยพลังสร้างสังคมดี จึงเป็นแพลตฟอร์ม ที่มีเป้าหมายเพื่อเป็นเครื่องมือขยายผลการสร้างสังคมที่ “เท่าเทียม” และ “ยั่งยืน” การทำงานแบบมีส่วนร่วมกับ “องค์กรตัวกลาง” ที่ทำงานแก้ไขปัญหาสังคมในประเด็นต่างๆ ที่ต้องเร่งให้ความสำคัญ ได้แก่ เยาวชน สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และธรรมาภิบาล ด้วยการผสานความร่วมมือ เชื่อมต่อทรัพยากรและสื่อสารกับทุกภาคส่วน  เพื่อให้การแก้ไขปัญหาสังคมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างผลกระทบเชิงบวกสู่สังคมที่ชัดเจนและวัดผลได้

การทำงานของเรา

เราเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาทางสังคมใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ เยาวชน สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และธรรมาภิบาล จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และได้รับการสนับสนุนจาก “กลไกความร่วมมือการลงทุนทางสังคม  และ “กลไกความร่วมมือการสื่อสารเพื่อสังคม    ที่จะช่วยหล่อเลี้ยงให้เกิดกระบวนการแก้ปัญหาและสร้างระบบนิเวศเพื่อความยั่งยืนของสังคม

รู้จักเรา

คุณกนกวรรณ โชว์ศรี ผู้อำนวยการ โครงการร้อยพลังสร้างสังคมดี 

“อยากให้เว็บไซต์ที่เราพัฒนาขึ้นใหม่นี้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถมาทำความรู้จักกับเครือข่ายความร่วมมือภาคสังคมในประเด็นที่หลากหลาย วันนี้เลยอยากจะชวนชาวพรีเมียร์ทุกคนเข้ามาใช้เว็บไซต์หาข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายภาคสังคม และถ้าได้ค้นพบประเด็นและโครงการที่ตรงกับความสนใจของตัวเองแล้วก็สามารถเชื่อมต่อกับช่องทางของภาคีโดยตรง และร่วมลงมือสร้างสังคมดีกับกิจกรรมของภาคีได้ทั้งในฐานะ active citizen และฐานะองค์กรเลยค่ะ”

วันนี้ร้อยพลังสร้างสังคมดี พร้อมชวนชาวพรีเมียร์มีส่วนร่วมลงมือเปลี่ยนสังคมไปพร้อมกับเรา

เพราะทุกคนคือผู้เปลี่ยนแปลงสังคม เพียงลงมือทำ เริ่มเลยไม่ต้องรอ
www.collaborationforgoodsociety.org

หรือโทร 02-301-1117 อีเมล์ goodsociety@ktf.premier.co.th

อาสาร้องส่งน้องเรียน

ศิลปินรุ่นใหญ่ รุ่นเล็กพร้อมใจร่วมเป็น
“คุณโอกาส” กับมูลนิธิยุวพัฒน์ ชวนทุกคนในสังคมมอบโอกาสการศึกษาให้เด็กไทยกับโครงการ “อาสาร้อง ส่งน้องเรียน”

อาสาร้อง ส่งน้องเรียน

ศิลปินรุ่นใหญ่ รุ่นเล็กพร้อมใจร่วมเป็น “คุณโอกาส”
กับมูลนิธิยุวพัฒน์ ชวนทุกคนในสังคมมอบโอกาสการศึกษาให้เด็กไทย
กับโครงการ “อาสาร้อง ส่งน้องเรียน”

คนทุกคนก็คงต้องการโอกาส และคุณก็สามารถเป็นคุณโอกาสได้ทุกคน จะดำจะขาว จะรวยจะจน แต่ละคนต้องการโอกาสเหมือนกันบางส่วนของเนื้อหาเพลงคุณโอกาสที่มูลนิธิยุวพัฒน์ ได้รับความร่วมมือจากเหล่าบรรดาศิลปินเพลง ร่วมกันขับร้องเพลงนี้พร้อมทำคลิป เพื่อต้องการสื่อและชวนทุกคนในสังคมมาเป็นคุณโอกาส มอบโอกาสทางการศึกษา พาเด็กๆ กลับไปเรียนหนังสือต่อ ผ่านโครงการ อาสาร้องส่งน้องเรียน 

ประเทศไทยมีเด็กยากจนกว่า 1.8 ล้านคน และในแต่ละปี กว่า 5 แสนคนต้องหลุดจากระบบการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้สถานการณ์โควิดที่รุนแรงมันส่งผลกระทบให้หลายครอบครัวต้องเกิดวิกฤต โดยเฉพาะพวกเด็กยากจนและยากจนพิเศษ      ที่หลายครอบครัวขาดรายได้ ขาดผู้นำครอบครัว ทำให้มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้เรียนต่อ โดยคาดการว่าปีการศึกษา 2565  ตัวเลขเด็กที่มีความเสี่ยงจะหลุดออกจากระบบอาจจะสูงถึงกว่า 50,000 คน ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือ (ผลสำรวจโดย กสศ. เดือนสิงหาคม 2564)  มูลนิธิยุวพัฒน์ที่ทำงานเรื่องการศึกษาของเยาวชนไทยมาโดยตลอด เห็นถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้น มูลนิธิยุวพัฒน์จึงได้ทำโครงการอาสาร้อง ส่งน้องเรียน  โดยใช้เพลงคุณโอกาสเป็นสื่อหลักในการร่วมระดมทุนและสร้างการตระหนักรู้ให้กับคนในสังคม 

เพลงนี้ได้ตัวจริงในวงการเพลงอย่างคุณปิติ ลิ้มเจริญหรือพี่ตู๋ แห่งวงนั่งเล่นมาช่วยแต่งเนื้อร้องและทำนองพร้อมชวนวงนั่งเล่น และเหล่าศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิ ธีร์ ไชยเดช, เจี๊ยบ วรรธนา,  อิน  บูโดกัน, Better Weather , สุเมธ องอาจ,  เที่ยรี่เจสซี่ เมฆวัฒนา, แมว จิรศักดิ์ ปานพุ่ม ฯลฯ มาร่วมกันคัฟเวอร์เพลงคุณโอกาสในสไตล์ของตัวเอง เพื่อเชิญชวนให้ทุกคนในสังคมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเด็กขาดโอกาสทางการศึกษาในมูลนิธิยุวพัฒน์ โดยพี่ตู๋เล่าว่า รู้จักมูลนิธิยุวพัฒน์และเคยเป็นผู้บริจาคมาแล้วก่อนหน้านี้ เพลงนี้แต่งเนื้อร้องและทำนองให้มูลนิธิฯ โดยใช้คีย์เวิร์ดคำว่าคุณโอกาสมาอยู่ในเพลง รู้สึกภูมิใจที่ได้แต่งเพลงนี้ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเพลงที่มีความพิเศษอะไรมาก แต่ก็ดีใจที่อย่างน้อยเราได้ใช้ความถนัดของตัวเองมาบอกเล่าและอยากชักชวนให้ทุกๆ คนที่มีโอกาสมากกว่าหยิบยื่นโอกาสให้กับคนที่ด้อยกว่าเพราะมันหมายถึงน้ำใจที่ยังคงมีอยู่ในสังคมและจะทำให้โลกหมุนต่อไปได้ มาเป็นคุณโอกาสให้เด็กๆ กันนะครับ

ด้านคุณสดุดี ชลิตเรืองกุล ผู้จัดการฝ่ายการสื่อสารและพัฒนาสัมพันธ์ บอกว่ามูลนิธิยุวพัฒน์ทำงานช่วยเหลือเด็กขาดโอกาสด้านการศึกษา ซึ่งหนึ่งในภารกิจหลักคือการให้ทุนการศึกษาเพื่อช่วยให้เด็กๆ ได้มีโอกาสเรียนต่อจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ที่ผ่านมาเรามีโครงการที่ชวนคนในสังคมให้เข้ามามีส่วนร่วม กับมูลนิธิฯ อย่างต่อเนื่อง สำหรับปีนี้เป็นการระดมทุนผ่านเสียงเพลงของอาสาร้องที่มาร่วมกันส่งน้องเรียนกับเพลงคุณโอกาส  โดยหวังว่าจะเป็นสีสันเพื่อให้เข้ากับเทศกาลแห่งความสุขที่กำลังจะเกิดขึ้น ให้ทุกคนผ่อนคลายจากความเครียดที่เจอกันมาตลอดทั้งปี และอยากเชิญชวนทุกคนร่วมมอบโอกาสให้เด็กไทย เพราะทุกความร่วมมือมีความหมาย ไม่ว่าใครก็สามารถช่วยเหลือปัญหาด้านการศึกษาได้ ด้วยการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับน้องๆ เพียง 600 บาทต่อเดือนจากทุกท่านก็จะสร้างโอกาสให้เด็กๆ กลับไปเรียนได้ หรือท่านใดไม่ว่าจะเป็นศิลปินนักร้อง ผู้ใหญ่ใจดี จะมาร่วมกิจกรรมอาสาร้อง ส่งน้องเรียนเพื่อนำไปเป็นสื่อในการระดมทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ ที่ขาดโอกาส ในมูลนิธิยุวพัฒน์ก็สามารถร่วมได้เช่นกัน โดยติดต่อผ่านทาง messenger Facebook ของมูลนิธิยุวพัฒน์

ติดตามผลงานจากศิลปินที่มาร่วมเป็นคุณโอกาสได้ที่  

www.facebook.com/yuvabadhana  

YouTube: มูลนิธิยุวพัฒน์ ให้อนาคตกับผู้ที่เป็นอนาคตของประเทศไทย

https://www.youtube.com/channel/UCATrXPTDq5qdodkxKNp9VSw 

มาร่วมกันเป็นคุณโอกาสบริจาคทุนการศึกษาผ่านมูลนิธิยุวพัฒน์ ได้ที่

บัญชีมูลนิธิยุวพัฒน์ ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 095-2-15120-7

(หากต้องการใบเสร็จ กรุณาส่งชื่อนามสกุล ที่อยู่ เบอร์มือถือ และสลิปโอนเงินบริจาค มาที่ ybf@ybf.premier.co.th หรือ Line แอดไอดี @BOS9702T โดยหมายเหตุว่า : คุณโอกาส)

บริจาคออนไลน์ (e-donation) ผ่านเว็บไซต์ ปันบุญ https://www.ttbbank.com/tmbf/donate?foundation_id=00010…

เงินบริจาคนำไปลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า

ปันกันเสื้อยืด

สาลินี รัตนชัยสิทธิ์ ​ศิลปินวาดภาพประกอบ
@Cyranodesign (ไซราโนดีไซน์) ใช้ความถนัด ร่วมสร้างสังคมดี
วาดภาพลายเส้น ส่งน้องเรียนให้ปันกัน

ปันกันเสื้อยืด ศิลปิน สาลินี รัตนชัยสิทธิ์


สาลินี รัตนชัยสิทธิ์ ศิลปินวาดภาพประกอบ
@Cyranodesign (ไซราโนดีไซน์) ใช้ความถนัด ร่วมสร้างสังคมดี
วาดภาพลายเส้น ส่งน้องเรียนให้ปันกัน

เพราะการแบ่งปันคือโอกาสทางการศึกษา  คุณสา สาลินี รัตนชัยสิทธิ์ ศิลปินวาดภาพประกอบ Character Illustrator เจ้าของแบรนด์ @Cyranodesign (ไซราโนดีไซน์) ที่มีสินค้าไลฟ์สไตล์มากมายทั้งผ้าพันคอ กระเป๋าผ้า  ฯลฯ จึงใช้ความถนัดของตนเอง เพื่อช่วยงานภาคสังคม วาดภาพลายเส้นมอบให้โครงการร้านปันกัน ผลิตเป็นเสื้อยืด นำมาจำหน่ายเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กขาดโอกาส ในมูลนิธิยุวพัฒน์ สินค้าจำหน่ายแบบพรีออเดอร์ ช่องทาง Line OA @Pankanonline ตั้งแต่วันนี้ -30 มิถุนายน 2565

คุณสาเล่าว่า เราได้ยินคำว่าแบ่งกันหรือแบ่งปันมาตั้งแต่เด็ก และเรียนรู้ว่าว่าการแบ่งนั้น เป็นการสละบางสิ่งให้แก่กัน สมัยเด็กเราอาจรู้สึกเสียดายเพราะยึดติด แต่พอโตมาแล้ว เราจะมองคนอื่นมากขึ้น เราเห็นว่าสิ่งที่เราปันไปนั้น ไม่ได้ทำให้ผู้รับหัวใจพองฟูอยู่ฝ่ายเดียว แต่เราก็ได้รับความสุขสดชื่น และอิ่มใจไปด้วยเช่นกัน คำว่าปันกันของสา เลยทำให้นึกถึงคำว่า “give and take” ซึ่งที่ผ่านมาเรามีส่วนร่วมทำกิจกรรมอาสาตลอด ทั้งแรงกายบ้าง ความรู้บ้าง อะไรที่คิดว่าตัวเองทำได้ หรือมีประโยชน์กับผู้อื่นก็จะลงมือทำ ทั้งเป็นอาสาช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ การทำสิ่งของจำหน่ายเพื่อช่วยเหลือในเหตุการณ์ต่างๆ 

แรงบันดาลใจของการวาดภาพนี้ตั้งต้นจากคำว่า ปันกันและเด็ก  ภาพตั้งต้นนั้นสาคิดถึงเด็ก 2 คน แบ่งสิ่งที่มีอยู่ให้แก่กัน สิ่งนั้นอาจไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แต่มีค่าในความรู้สึก เด็กคนหนึ่งมีดอกไม้ และเด็กอีกคนมีน้องเห็ด สิ่งที่ต่างคนต่างมีในมือ แลกเปลี่ยนหรือปันกันผ่านลวดลายของเครื่องแต่งกายพร้อมใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม เพราะทั้งคู่ได้แบ่งปันความสุขให้แก่กัน จึงเกิดเป็นภาพวาดน่ารักๆ นี้ขึ้น 

คุณสากล่าวเพิ่มเติมว่าบางท่านเวลาเห็นใครหลายๆ คนช่วยเหลือกัน อาจจะคิดว่า เขาพร้อมและมีทุกอย่างเลยแบ่งปันได้ แต่จริงๆ การแบ่งปันกัน อาจเริ่มจากทักษะความสามารถเล็กๆน้อยๆ ของตัวเอง เช่นการวาดรูป ทำอาหาร ถนัดภาษา ถนัดงานไม้ ถนัดคำนวณ ถนัดเจรจา ถนัดวางแผน ชอบปลูกต้นไม้ ชอบงานประดิษฐ์ หรือแม้แต่ยังไม่มีไอเดียในหัวว่าเราชอบอะไร ทุกคนก็สามารถเรียนรู้ และแบ่งปันความสามารถของตัวเองได้ สิ่งที่เราชอบ ความถนัดของเราอาจเป็นที่ต้องการของอีกคน ดังนั้น ความถนัดต่าง ๆ ล้วนเกื้อกูลกัน ลองดึงศักยภาพของตัวเองออกมา และแบ่งปัน เชื่อว่าเราทุกคนจะช่วยสร้างสังคมที่ดีขึ้นได้

การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเด็ก สามองว่าแม้ว่าพื้นฐานการเลี้ยงดู และความอบอุ่นในแต่ละครอบครัวอาจแตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญและควรเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต คือ การศึกษาที่ดี สำหรับเด็กบางคนการศึกษาอาจเป็นสิ่งหล่อหลอมเดียวด้วยซ้ำ ที่จะเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต ไม่ว่าเด็กจะโตมาในสภาพความเป็นอยู่ สภาพแวดล้อมแบบไหน เขาควรได้รับโอกาสในการศึกษา ได้เรียนรู้ศาสตร์ต่างๆ เพื่อให้เขาคิดเป็น เลือกเป็น และใช้สิ่งนั้นเป็นต้นทุนชีวิต เพื่อพัฒนาตนเอง และพัฒนาสังคมต่อไป 

ต้องขอบคุณโครงการร้านปันกัน มูลนิธิยุวพัฒน์ ที่ชวนมาสร้างสรรค์ลายเส้นครั้งนี้ รายได้จากการจำหน่ายเสื้อยืดทุกตัว จะเป็นต้นทุนสำคัญให้กับเด็กๆ เพราะไม่ใช่แค่ตัวเงินรายได้ แต่นั่นคือ การทำให้เด็กทุกคนเข้าถึงการศึกษา ที่จะเป็นประโยชน์ทั้งกับตัวเขา และสังคมของเราในอนาคต

ผู้ที่สนใจสั่งเสื้อยืดส่งน้องเรียน จำหน่ายราคาตัวละ 350 บาท มีทั้งหมด 4 แบบ สินค้าจัดส่งภายในเดือนสิงหาคม 2565  

เลือกชมได้ที่ LineMyShop  https://shop.line.me/@pankanonline

เพลิน Feed the Future x FOOD FOR GOOD

เพลิน
Feed the Future x FOOD FOR GOOD

เพลิน Feed the Future x FOOD FOR GOOD

เพลิน Feed the Future x FOOD FOR GOOD

FOOD FOR GOOD จับมือกับ บริษัท สวีทมีท (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตน้ำมันพืชเพลินในแคมเปญเพลิน Feed the Future” ด้วยความตั้งใจที่อยากเห็นเด็กและเยาวชนในประเทศไทยได้รับโภชนาการที่ครบถ้วนเหมาะสม มีสุขภาพดี พร้อมรับต่อการเรียนรู้และการเติบโตในอนาคตที่สดใส โดยบริษัท สวีทมีท (ประเทศไทย) จำกัด ด้มอบเงินบริจาคให้กับ FOOD FOR GOOD จำนวน 1,000,000 บาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานพัฒนาโภชนาการเด็กและเยาวชนในประเทศไทย

แคมเปญเพลิน Feed the Future x FOOD FOR GOODปี 2566 นี้ จะสามารถเข้าไปช่วยเหลือโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลจำนวน 7 แห่ง ให้มีระบบการจัดการงานอาหารและโภชนาการนักเรียนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้รับอาหารที่เหมาะสม ครบถ้วน และหลากหลายตามช่วงวัย มีวิธีการดูแลเด็กนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการให้สามารถกลับมาอยู่ในภาวะปกติ ส่งเสริมการทำเกษตรปลอดภัยในโรงเรียนเพื่อเป็นแหล่งอาหารและเรียนรู้ มีการสร้างความร่วมมือกับชุมชนและหน่วยงานในพื้นที่เพื่อเข้ามาต่อยอดงานให้เกิดความต่อเนื่อง (ประมาณการณ์จำนวนเด็กที่ได้รับประโยชน์ 700 คน*)

นายเอกภัท เตมียเวส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจเตมียเวส กรุ๊ป และประธานกรรมการ บริษัท สวีทมีท (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าบริษัทดำเนินธุรกิจด้านน้ำมันพืช ยี่ห้อเพลินมาตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งการเจริญเติบโตของตลาดน้ำมันพืชมีแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ และในปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าต่างประเทศดีมาก และมีแผนที่จะขยายตลาดและกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นในประเทศเป็นหลักและเพิ่มสัดส่วนการตลาดในต่างประเทศโดยเฉพาะสหภาพยุโรป 

ตั้งแต่บริษัทฯ เริ่มดำเนินการก็คิดถึงเรื่องการตอบแทนด้านสังคมมาโดยตลอด ซึ่งปี 2566 นี้เป็นปีที่ดีที่จะมีโอกาสได้ลงมือทำ ผนวกกับได้รู้จัก FOOD FOR GOOD มูลนิธิยุวพัฒน์  และได้ศึกษางานที่ FOOD FOR GOOD ทำ เพื่อให้เด็กๆได้รับโภชนาการที่ครบถ้วน รู้สึกประทับใจแนวทางการทำงานการให้ที่ไม่จบแค่มื้ออาหารและคิดว่าเราเองก็มีเป้าหมายเดียวกัน คืออยากเห็นเด็กไทยเติบโตอย่างแข็งแรง เพราะมองว่าเด็กคืออนาคตของชาติ หากมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ คนของประเทศก็จะเป็นคนที่มีคุณภาพด้วย

*จำนวนเด็กนักเรียนและโรงเรียนเป็นเพียงการประมาณการ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

รับมอบประกาศนียบัตรรับรอง CAC

สองบริษัทมหาชน บมจ. พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง และ บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์

ประกาศนียบัตรรับรอง CAC

สองบริษัทมหาชน บมจ. พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง
และ บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์
รับมอบประกาศนียบัตรรับรอง CAC

แนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทยหรือเรียกสั้นๆ ว่า CAC (Thai Private Sector Collective Action Against Corruption) เป็นโครงการที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 เพื่อเป็นกลไกให้บริษัทในประเทศไทยได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันร่วมกัน โดยมีวัตถุประสงค์ 3 ด้านคือ 1. สร้างการรวมตัวของธุรกิจที่ดำเนินการด้วยความโปร่งใส ปราศจากการรับจ่ายสินบน 2. การยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานที่สามารถควบคุมความเสี่ยงด้านคอร์รัปชันของภาคเอกชน 3. การร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงในการให้บริการภาครัฐเพื่อให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส  โดยมีบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกเพื่อประกาศเจตนารมณ์กับ CAC รวมกว่า 1000 บริษัท และมีบริษัทที่ผ่านการรับรองว่ามีนโยบายและแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อควบคุมความเสี่ยงคอร์รัปชันแล้วกว่า 470 บริษัท*

โดยในปี 2566 นี้ บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) และบริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) ได้รับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย เป็นครั้งที่ 3 โดยมี ดร. สมชาย ชุณหรัศมิ์ ที่ปรึกษา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทพรีเมียร์และที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจมหาชน, คุณสุรเดช บุณยวัฒน ประธานกรรมการ และคุณธิติพัทธ์ อดิลักษณ์ธราดล ประธานกรรมการบริหาร บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ รับมอบใบประกาศนียบัตร CAC  เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  กรุงเทพฯ  ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของการต่อต้านคอร์รัปชัน ยึดหลักธรรมาภิบาล และคุณธรรมจริยธรรม ตามแนวปฏิบัติคุณค่าหลักของกลุ่มบริษัทพรีเมียร์

ที่มา เว็บไซต์ Thai-CAC.com

การสร้างคุณค่าเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

การสร้างคุณค่าเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

การสร้างคุณค่าเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

การสร้างคุณค่าเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน)

ปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่จะหมดไปจากโลกนี้ เป็นปัญหาใหญ่ต้องร่วมกันแก้ไข เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้ในแบบที่ตนเองถนัด เช่น การแยกขยะพลาสติกเพื่อนำกลับไปรีไซเคิล การประหยัดไฟน้ำ และใช้เท่าที่จำเป็น เป็นต้น

ในภาคธุรกิจนั้น บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย มีการสานต่อนโยบายความสำเร็จร่วมกันอย่างยั่งยืน ในการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานและทรัพยากรให้คุ้มค่า เพื่อลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ผ่าน 4 แผนงาน

ารใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

  • ปรับเปลี่ยนขั้นตอนการขนส่งสินค้าเป็นแบบ Direct Shipment โดยตรงจาก บริษัท พี เอม ฟูด จำกัด เพื่อลดระยะทางการขนส่งจากศูนย์กระจายสินค้า 
  • ลดระยะทางการขนส่งสินค้าแบบเดิม 5,218 กิโลเมตร 
  • ลดต้นทุนในการขนส่งสินค้าได้ถึง 40%  
  • ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 2.24 tonCO2e /ปี 

การใช้พลังงานก๊าซ LNG ทดแทนก๊าซ LPG 

  • บริษัท พี เอม ฟูด จำกัด ได้ทำการศึกษา ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อทดลองและปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต จากเดิมคือก๊าซ LPG เป็นก๊าซ LNG ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาด และไม่มีฤทธิ์กัดกร่อน หากมีการรั่วไหลสู่สิ่งแวดล้อม ก๊าซจะระเหยกลายเป็นไอแพร่กระจายในอากาศโดยไม่มีสารตกค้างในน้ำหรือดิน 

การใช้พลังงานสะอาดทดแทน 

  • บริษัทพี เอม ฟูด และ บริษัท พรีเมียร์ แคนนิ่ง อินดัสตรี้ จำกัด  มีการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์บนหลังคา ตั้งแต่ปี 2560  ขยายการติดตั้งจนเต็มพื้นที่หลังคาโรงงานผลิต จนถึงปี 2564 เพื่อลดการใช้น้ำมันและถ่านหินที่สร้างก๊าซพิษ ส่งผลต่อปัญหาโลกร้อน และป้องกันการประสบปัญหาภาวะขาดแคลนน้ำมันในอนาคต 
  • ผลลัพธ์ คือ กระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ 1,604.56 MWh/ ปี ช่วยลดต้นทุนค่าไฟต่อปี 7.54 ล้านบาท  
  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1,112.44 tonCO2e/ ปี 

2. การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ

นำน้ำกลับมาใช้ใหม่

  • บริษัท พรีเมียร์ แคนนิ่ง อินดัสตรี้ จำกัด มีการบริหารจัดการนำน้ำทิ้งหลังการบำบัดที่มีคุณภาพมาตรฐานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ เช่น นำมารดน้ำต้นไม้ ล้างลานรับวัตถุดิบ และบำบัดอากาศโดยลดเขม่าควันจากการเผาไหม้ของ Boiler  
  • สามารถนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ได้ถึง 41,720 ลบ.ม. / ปี คิดเป็น 50% ของปริมาณน้ำใช้ทั้งหมด 
  • ลดต้นทุนค่าน้ำประปา 709,240 บาท / ปี 
  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 33.16 tonCO2e / ปี

3. การบริหารจัดการของเสียในกระบวนการผลิต

โครงการผลิตปุ๋ยจากของเสียในกระบวนการผลิต 

  • บริษัท พี เอม ฟูด จำกัด ได้มีจัดทำโครงการผลิตปุ๋ยจากของเสียในกระบวนการผลิตและเศษอาหารจากโรงอาหาร โดยใช้เครื่องกำจัดขยะเศษอาหาร Composter สามารถผลิตปุ๋ยได้เดือนละ 2,000 กิโลกรัม เพื่อแจกจ่ายให้กับพนักงานที่มีพื้นที่ นำไปใช้ปลูกผักสวนครัว 
  • ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ปุ๋ยเคมี และแจกจ่ายให้หน่วยงานภายนอกรอบๆ ชุมชน ที่มีแปลงเกษตรปลูกพืชสวนครัวอีกด้วย
  • ผลลัพธ์ ลดของเสียจากกระบวนการผลิตและจากโรงอาหาร ไปสู่ชุมชน ปริมาณ 24 ตัน / ปี  คิดเป็น 100% ของปริมาณของเสียทั้งหมด นำไปผลิตเป็นปุ๋ยได้ 20,098 กก. 
  • ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยเคมี 313,455 บาท

 การผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากเปลือกกาแฟ

  • บริษัท มีวนา จำกัด ได้มีการบริหารจัดการเปลือกกาแฟเชอรี่จากกระบวนการผลิต เพื่อนำมาทำเป็นปุ๋ยหมัด เพื่อกลับคืนสู่ดิน เป็นระบบนิเวศอาหารที่หมุนเวียนอย่างสมดุล 
  • ผลลัพธ์  เปลือกกาแฟ 972,400 กิโลกรัม นำกลับไปทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ได้ 126, 910 กิโลกรัม 
  • ลดต้นทุนการซื้อปุ๋ยของเกษตรกร 793,187 บาท

รณรงค์การคัดแยกขยะพลาสติก

  • บริษัทฯ ได้ร่วมกับโครงการขยะชุบชีวิตและกลุ่มคนจริงไม่นิ่งดูดาย ในการคัดแยกขยะ รวม 207 กก. ส่งให้วัดจากแดง นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ 
  • นอกจากนี้ บริษัท พี เอม ฟูด จำกัด ได้มีการคัดแยกขยะรีไซเคิล รวมจำนวน 4,228 กิโลกรัม เพื่อจำหน่ายและนำรายได้มาใช้ในงานกิจกรรมพัฒนาชุมชน รอบพื้นที่โรงงาน

4. การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก

ในปี 2565 บริษัทฯ ได้มีการส่งเสริมและผลักดันการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในหน่วยงาน และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า 

ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 5% หรือ 55.0168 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (เทียบกับปีฐาน 2564)

นี่ก็เป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของเราที่จะร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม มองหาใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมในการใช้พลังงานทดแทน ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และสร้างการมีส่วนร่วมกับพนักงาน คู่ค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับห่วงโซ่คุณค่าในการสร้างความสำเร็จร่วมกันอย่างยั่งยืน

Sales Network Development Award

บมจ.พรีเมียร์ โพรดักส์ คว้ารางวัล
Sales Network Development Award 2022

Sales Network Development Award

บมจ.พรีเมียร์ โพรดักส์ คว้ารางวัล
Sales Network Development Award 2022

คุณสมชาย โรจน์อัศวเสถียร กรรมการผู้จัดการ บมจ.พรีเมียร์ โพรดักส์ สายธุรกิจพลังงานสะอาด ได้เข้าร่วมงาน Huawei APAC Fusion Solar Gala Dinner 2023 เมื่อเดือนพ..ที่ผ่านมา ที่เมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน ภายในงาน Huawei ได้เป็นเจ้าภาพในพิธีเปิดตัวพันธมิตรพาร์ทเนอร์ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ร่วมระดมความคิดและแสวงหาโอกาสใหม่ในการสร้างความเติบโตเพื่อความสำเร็จร่วมกันในอนาคต 

โดย บมจ.พรีเมียร์ โพรดักส์ ได้รับรางวัล Sales Network Development Award 2022 ที่เป็นข้อพิสูจน์ถึงการเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ระยะยาว ระหว่าง บมจ.พรีเมียร์ โพรดักส์ และผู้ผลิตสินค้าเพื่อพลังงานสะอาดชั้นนำอย่าง Huawe และมุ่งมั่นที่จะมอบสินค้า บริการและประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า พัฒนาคุณภาพและการบริการต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนสำหรับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

จากประสบการณ์กว่าทศวรรษและบทพิสูจน์ความสำเร็จจนถึงปัจจุบัน ปีพ.. 2566 นี้ บมจ.พรีเมียร์ โพรดักส์ ยังคงมุ่งเน้นการให้องค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพทางด้านเทคนิคให้แก่ผู้ประกอบการทั้งผู้ประกอบการใหม่ที่จะก้าวเข้ามาในธุรกิจพลังงานสะอาดและผู้ประกอบการเดิมที่มีความต้องการที่จะขยายในธุรกิจนี้ เพื่อร่วมกันก้าวข้ามความท้าทายในเรื่องภาวะโลกร้อนและการแก้ปัญหามลพิษต่างๆ ในอากาศ  พร้อมก้าวสู่ความสำเร็จในอนาคตอย่างยั่งยืนร่วมกัน

This site is registered on wpml.org as a development site.